|
![]() |
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 35 พระอาจารย์มั่นเริ่มป่วย |
ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๓๕ ทำนอง : แขกเชิญเจ้า อยู่หนองผือนาใน เหมือนเป็นร่มไทรเย็นใจพระเณรและโยมมากมี -ดนตรี- พอล่วงพรรษาที่สี่ ขึ้นสิบสี่ค่ำเดือนสี่สองสี่เก้าสอง ขันธ์และธาตุครองเริ่มจะหมองพลันพระอาจารย์มั่นป่วยลง -ดนตรี- พระและเณรต่างพะวง -ดนตรี- จิตเคยมั่นคง -ดนตรี- ต่างองค์ต่างมีกังวล -ดนตรี- ด้วยคิดห่วงใยอยู่ในกมลกระวนกระวาย ห่วงใยในพระอาจารย์ -ดนตรี- เริ่มเจ็บป่วยโดยทั่วไปมีไข้และไอรุมเข้าผสมกัน ต่อมาอาการนับวันทรงกับทรุดเรื่อยไป ท่านบอกทันทีไม่มียาใด จะมารักษาได้เลย -ดนตรี- ต่อให้หมอเทวดา ชั้นพรหมชั้นฟ้าลงมารักษามิได้หรอกเอย -ดนตรี- ท่านเคยเตือนเอื้อนเอ่ย ให้รู้เลยล่วงหน้ามาตั้งสามปี น่าจะรู้ดีนี่ก็ถึงวัน อีกไม่นานนับแต่นี้ -ดนตรี- ที่ป่วยนี่ครั้งสุดท้าย -ดนตรี- ไม่มีวันหาย -ดนตรี- อย่าไปอาลัยกับมัน -ดนตรี- เป็นวัฏจักรที่เขาทำงานในกายพลัน เรื่อยไปทั้งวันและคืน -ดนตรี- ยาไม่มีผลอันใด นอกจากไฟที่ได้มาจากฟืน เข้าสนิทกลมกลืน คือฟืนไฟนั่นแหละเป็นของแน่ ท่านพูดกล่าวเตือนไม่มีเชือนแช ไม่มีผันแปรเป็นอื่น -ดนตรี- -พูด- บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๓๕ ท่านมิได้สนใจกับหยูกยาอะไรเลย นอกจากแสดงอาการเป็นความรำคาญเวลามีผู้นำยาเข้าไปถวายให้ฉัน โดยบอกว่า อ.มั่น: ไข้นี้มันเป็นไข้ของคนแก่ ซึ่งหมดความสืบต่อใดๆ อีกแล้ว ไม่ว่ายาขนานใดมาใส่จะไม่มีวันหาย มีเพียงลมหายใจที่รอวันตายอยู่เท่านั้น เช่นเดียวกับไม้ที่ตายยืนต้น แม้จะรดน้ำพรวนดินให้ฟื้นเพื่อผลิดอกออกใบ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ รออยู่พอถึงวันโค่นล้มลงจมดินของมันเท่านั้น ไข้ที่เริ่มเป็นอยู่เวลานี้ก็เป็นไข้ประเภทนั้นนั่นแล ฉะนั้น จึงได้เตือนหมู่เพื่อนเสมอว่า อย่าพากันนอนใจ รีบเร่งทางความเพียรขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ติดขัดอะไรจะได้ช่วยแก้ไขให้ทันกับเหตุการณ์ ผมจะอยู่กับหมู่เพื่อนไปอีกไม่นาน จะจากไปตามกฎของอนิจจังที่เดินตามสังขารอยู่ทุกเวลาไม่ลดละ อย่างไรก็ไม่เกิน ๓ ปี นี่เป็นคำที่เคยเตือนล่วงหน้ามาได้ ๓ ปีเข้านี้แล้ว จะพูดให้เคลื่อนจากที่แน่ใจอยู่แล้วนี้ไปไม่ได้ งานของวัฏจักรที่ทำบนร่างกายจิตใจของคนและสัตว์ เขาทำของเขาอยู่ทุกเวลานาที นี้ก็เป็นงานครั้งสุดท้ายของเขาที่ทำอยู่บนร่างกายผม ซึ่งจะเสร็จสิ้นไปภายในไม่กี่เดือนนี้ จะให้เขาเปลี่ยนแปลงงานเขาอย่างไรได้ดังนี้ ยาไม่เป็นประโยชน์กับไข้ของผมในครั้งนี้ มีแต่ฟืนเท่านั้นจะเข้ากันได้สนิท แม้ท่านจะได้รับความลำบากทางขันธ์ เพราะโรคภัยเบียดเบียนจนสุขภาพทรุดลงเป็นลำดับก็ตาม แต่การบิณฑบาต ฉันในบาตร และฉันมื้อเดียวที่เคยดำเนินมา ท่านก็ยังอุตส่าห์ประคองของท่านไปไม่ยอมลดละปล่อยวาง เมื่อไม่สามารถไปสุดสายบิณฑบาตได้ ท่านก็พยายามไปเพียงครึ่งหมู่บ้าน ต่อมาญาติโยมและพระอาจารย์ทั้งหลายเห็นท่านลำบากมาก จึงขออาราธนานิมนต์ท่านไปแค่ประตูวัดแล้วกลับ จนไปไม่ไหวจริงๆ ท่านยังขอบิณฑบาตบนศาลาโรงฉัน และฉันมื้อเดียวตามเดิม เราคนดีต้องอนุโลมตามความประสงค์ท่านทุกระยะไป ด้วยความอัศจรรย์ในความอดทนของนักปราชญ์ชาติอาชาไนย อาการท่านรู้สึกหนักเข้าไปทุกวัน ท่านจึงประชุมเตือนบรรดาศิษย์ให้ทราบ อ.มั่น: ผมน่ะต้องตายแน่นอนในคราวนี้ดังที่เคยพูดไว้แล้วหลายครั้ง แต่การตายของผมเป็นเรื่องใหญ่ของสัตว์และประชาชนทั่วๆ ไปอยู่มาก ถ้าผมตายที่นี่จะเป็นการกระเทือนและทำลายชีวิตสัตว์ไม่น้อยเลย สำหรับผมตายเพียงคนเดียว แต่สัตว์ที่จะพลอยตายเพราะผมเป็นเหตุนั้นมีจำนวนมากมาย เพราะคนจะมามาก ทั้งที่นี่ไม่มีตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน อย่างไรขอให้นำผมออกไปตายที่สกลนคร เพราะที่นั้นเขามีตลาดอยู่แล้ว คงไม่กระเทือนชีวิตของสัตว์มากเหมือนที่นี่ ฉะนั้น จึงขอให้รีบจัดการให้ผมได้ออกไปทันกับเวลาที่ยังควรอยู่ในระยะนี้ เพื่ออนุเคราะห์สัตว์ที่รอตายตามผมอยู่เป็นจำนวนมาก ให้เขาได้มีความปลอดภัยในชีวิตของเขาโดยทั่วกัน และแล้ววันที่กลายเป็นวันมหาเศร้าโศกโลกหวั่นไหว เพราะความวิโยคพลัดพรากจากสิ่งที่รักเคารพเลื่อมใส ก็ได้ระบาดขึ้นแก่ชาวบ้านชาววัดอย่างสุดจะอดกลั้นไว้ได้นั้น คือวันที่ประชาชนญาติโยมและพระสงฆ์จำนวนมากเตรียมแคร่มารอรับท่านอาจารย์มั่นที่บันไดกุฎี เพื่อหามท่านออกจากวัดหนองผือ ไปสู่สกลนคร |
![]() |
Copyright All Rights Reserved. |