|
![]() |
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 32 อบรมพระ-เณรที่หนองผือนาใน |
ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๓๒ ทำนอง : ลาวคำหอม ท่านมาอยู่หนองผือนาในอำเภอพรรณานิคมจังหวัดสกลนคร ตามที่เขานิมนต์วิงวอน จึงสัญจรมาจำพรรษา พระเณรทราบข่าวต่างเข้ามา หวังพึ่งพาบารมีบุญพระอาจารย์ -ดนตรี- มามอบกายถวายชีวัน หวังให้ท่านอบรม -ดนตรี- ธรรมรื่นรมย์ชโลมจิตใจ หวังจะเห็นธรรมล้ำเลิศอำไพ ลุยน้ำข้ามป่ามาอาศัย หวังใบบุญพระคุณอาจารย์มั่น -ดนตรี- ช่วยลบภพชาติในปัจจุบัน มรรค-ผล-นิพพานนั้นคือแดนชัย -ดนตรี- จนท่านเองไม่อาจสามารถจะรับหวาดไหว -ดนตรี- ด้วยที่อยู่อาศัยหนองผือนาในนั้นมีจำกัด กุฏิที่วัดไม่เพียงพอกับพระเณร นั้นหนอจึงต้องขออภัย พระเณรจึงได้ถอยมา แต่ยังศรัทธาท่วมท้น ต่างองค์มิยอมย่อย่น เวียนวนไม่ห่างไกล วันอุโบสถเมื่อใด รีบไปฟังธรรมท่านทันที ท่านเมตตาอนุเคราะห์เต็มที่ ติดขัดช่วยชี้ให้รู้วิธีทางไป -ดนตรี- ตลอดญาติโยมทั้งชายหญิง ไม่ทอดทิ้งนิ่งดูดาย ไม่ทอดอาลัยคอยให้คำสอน ทุกขั้นตอนตามภูมิตลอดมา ทั้งปวงทวยเทพเทวา สงเคราะห์เรื่อยมาเมตตาไม่หน่าย แต่เทพเทวา วัดหนองผือนาใน มีไม่มากมายเหมือนเชียงใหม่เมืองเหนือ ท่านอยู่ที่ไหนได้ช่วยเหลือ คอยจุนเจือเนื้อธรรมนำช่วยชี้ ด้วยเมตตาเต็มปรี่ พระเณรเถรชี มากมีทั้งปวงชน -ดนตรี- -พูด- บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๓๒ ที่หนองผือมีพระมาจำพรรษากับท่านราว ๒๐-๓๐ องค์ ซึ่งรับมากกว่านั้นไม่ได้เพราะที่พักไม่เพียงพอ เหลือนอกจากนั้นก็แยกย้ายกันไปอยู่ไกลออกไป ๖-๗ ก.ม.บ้าง ๘-๙ ก.ม.บ้าง ๑๕๒๐ ก.ม.บ้าง ถึงวันประชุมอุโบสถต่างก็มารวมกันไม่ต่ำกว่า ๕๐-๖๐ องค์ หากนอกพรรษายังมีมากกว่านี้อีกในบางครั้ง เวลาท่านเทศน์อบรม ท่านเทศน์แบบเด็ดๆ เผ็ดๆ ร้อนๆ ปลุกใจพระให้เด็ดเดี่ยวอาจหาญ อ.มั่น: ในการปฏิบัติธรรม ยากก็ทน ลำบากก็ทำ ทุกข์ก็ต้องต่อสู้ เพื่อกอบกู้หน้า บูชาพระศาสดา กู้พระศาสนา กู้เพศแห่งสมณะ กู้ผ้าเหลือง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของผู้ชนะมาร มีป่าช้าอยู่กับตัวกลัว อะไร สิ้นลมที่ไหนก็ปล่อยร่างวางไว้ที่นั่น อย่าอาลัยเสียดายชีวิตยิ่งไปกว่าธรรม ผู้เคยกลัวผีมาดั้งเดิม ท่านให้ไปอยู่ป่าช้า ผู้กลัวสัตว์ร้ายนานามีเสือช้างเป็นต้น ท่านให้ไปอยู่ป่าเปลี่ยว ใกล้ถ้ำเสือที่เคยเดินหากินผ่านไปผ่านมา นำความกลัวนั้นมาพิจารณาให้เป็นธรรม จนกว่าความกลัวจะหายกลายเป็นความกล้าหาญ ผู้เห็นแก่ปากแก่ท้องก็ให้ลดหย่อนผ่อนอาหารเพื่อทรมานกิเลส อ.มั่น: เราเป็นนักรบในวงปฏิบัติ หากมัวแต่หดหัวกลัวทุกข์ไม่บุกทำลายรังกิเลสให้เด็ดขาด มัวขลาดมัว เขลาเบาปัญญาไม่กล้าเข้าเผาทลายกิเลสด้วยการปฏิบัติธรรมอันเลิศล้ำและยอดยิ่ง แล้วจะรู้-จะ ได้ความจริงมาจากไหน แม้พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ตาม กว่าจะได้บรรลุธรรมก็ทรงพยายามฟัน ฝ่ากล้าต่อสู้ หากยังมิได้ตรัสรู้ธรรมนำเฉลย ก็อย่าหวังว่าจะถอยหนีให้กิเลสน้อยใหญ่ย่ำยีเยาะเย้ย เหยียบย่ำทำลายลง ปรากฏว่าพระทุกองค์ที่ท่านบอกให้ออกไปปฏิบัติ ต่างได้ธรรมมาเป็นเครื่องประดับใจและไม่มีองค์ใดได้รับอันตรายจากสัตว์เสือแม้แต่องค์เดียว อำนาจแห่งธรรมที่ท่านแสดงออกแต่ละครั้ง ในความรู้สึกของผู้ฟังทั่วๆ ไป ประหนึ่งโลกธาตุดับสนิท เหมือนกิเลสทุกชนิดได้ดับหายไปจากใจพระธุดงค์ บางครั้งกำลังเกิดความสงสัยวุ่นวายอยู่กับจุดใดจุดหนึ่งซึ่งสลับซับซ้อนเหลือที่จะแก้ให้ตกไปได้โดยลำพังสติปัญญาของตัวเอง พอท่านอธิบายไปถึงจุดนั้นๆ ปรากฏเหมือนท่านเข้าไปทำลายความสงสัยของตน และผ่านไปได้ในขณะนั้นอย่างทะลุปรุโปร่ง แบบไม่มีที่ขัดข้องต้องติใดๆ เลย ปรากฏเป็นความซาบซึ้งใจและอัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูก |
![]() |
Copyright All Rights Reserved. |