Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 19 เข้าสนามรบขั้นสุดท้าย

                              ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๙ 
ทำนอง : แพนน้อย

    ออกธุดงค์องค์เดียวเหนียวแน่น เข้าไปอยู่ยังแดนพนาป่าเขา
ล้อมด้วยห้วยละหารธารลำเนา แถบแม่ปิงออกเฉลียงไปเชียงดาว
ดอยดงแดนด้าวล้วนมีเขาไพร ออกบำเพ็ญชุ่มแสนเย็นใจ
ไม่กังวลและสนใจใคร ไม่ประวิงสิ่งใด
แม้ความตายไม่หวั่น
-ดนตรี-
มุ่งหวังตั้งใจแน่นอน ไม่มีวันสั่นคลอนอ่อนแอแปรผัน
ต้องประจักษ์ในมรรคผล-พระนิพพาน อันกิเลสาสวะมาระราญ
ขอตามห่ำหั่นหาญกล้าราวี ให้หมดใจเยื่อใยไม่มี
ชาติและภพจบกันเสียที หมู่มารมาวี
ขอพลีชีพสู้
-ดนตรี-
เพิ่มพากเพียรไม่มีผันผ่อน เว้นยามนอนหลับไหล
หลับไปไม่รู้ เหนือนอกจากนั้นเฝ้าพันตู
ตามรอยบาทแห่งปฐมบรมครู พระพุทธองค์ทรงสู้หมู่พวกมารผจญ
จะเป็นตายไม่คิดกังวล ไม่ยอมถอยลอยลับอับจน
มอบกายถวายตนเพื่อมรรคผล-นิพพาน
-ดนตรี-  แล้วเปลี่ยนเป็นทำนอง --ออกพม่าเขว
มหาสติมหาปัญญาพร้อมอยู่ สอดส่องดูรู้อารมณ์สารพัน
อันเวทนา-สัญญา-สังขาร อีกทั้งวิญญาณนามขันธ์สี่นี้คือ
สนามรบแห่งปัญญาพิจารณาขั้นสุดท้าย ส่วนรูปขันธ์นั้นหมดปัญหาไป
ตั้งแต่ครั้งท่านได้ขั้นอนาคามี
-ดนตรี-
นามขันธ์ขั้นนี้ต้องรู้แจ้ง สิ้นเคลือบแคลงด้วยคลี่คลายได้อย่างดี
เกิดขึ้นมา-ตั้งอยู่-ดับไปทุกที โดยมีอนัตตานั้นเป็นที่รวมลง
ว่างเปล่าไปไม่พะวง ไม่มั่นคงเลยสักครา
นามธรรมเหล่านี้ที่กล่าวมา ต้องเห็นด้วยปัญญามิใช่สัญญาแต่อย่างใด
-ดนตรี-

                             -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๙
    เมื่อได้ปฏิบัติมาถึงขั้นนี้  ท่านมีความเพลิดเพลินจนลืมเวล่ำเวลา ลืมวัน ลืมคืน ลืมพักผ่อนหลับนอน ลืมความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า  จิตตั้งท่าแต่จะสู้กับกิเลสทุกประเภท  ด้วยความเพียรเพื่อถอดถอนมันทั้งราก  โดยไม่มีความสะทกสะท้านหวั่นเกรงอะไรเลย  เมื่อถึงขั้นสุดท้าย  นามขันธ์เป็นธรรมจำเป็นต้องพิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง  ทั้งที่ปรากฏขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป  โดยมีอนัตตาเป็นที่รวมลง  การเห็นนามธรรมเหล่านี้ต้องเห็นด้วยปัญญาหยั่งทราบตามหลักความจริงจริงๆ เท่านั้นมิใช่เห็นตามสัญญา  ความเห็นตามสัญญากับความเห็นด้วยปัญญา ต่างกันอยู่มากราวฟ้ากับดิน  ความเห็นด้วยสัญญาพาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก  มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มากทั้งๆ ที่กำลังหลงมาก  จึงมีทิฏฐิมากไม่ยอมลงใครง่ายๆ
    ส่วนความเห็นด้วยปัญญานั้น  เป็นความเห็นซึ่งพร้อมที่จะถอดถอนความสำคัญมั่นหมายต่างๆ อันเป็นตัวกิเลสทิฏฐิมานะน้อยใหญ่ออกไปโดยลำดับที่ปัญญาหยั่งถึง  ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริงๆ กิเลสทั้งหลายก็พังทลายไปหมด  ไม่มีกิเลสชนิดใดทนต่อปัญญาขั้นยอดเยี่ยมไปได้
    ผู้ปฏิบัติทางจิตภาวนา  จึงควรระวังเจ้าสัญญาจะแอบมาทำหน้าที่แทนปัญญาโดยรู้เอาหมายเองเฉยๆ  แต่กิเลสแม้แต่ตัวเดียวก็มิได้ถอดออกจากใจบ้างเลย
 


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.