|
![]() |
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 16 เมตตาทั่วสรรพสัตว์ |
ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๖ ทำนอง : ลมพัดชายเขา ในบางค่ำคืนดึกดื่นดาวเคลื่อนเดือนคล้อยเวหา มีเทพไท้เทวา พญานาคก็มาขอฟังธรรมพระอาจารย์มั่น -ดนตรี- บางคราวบางคราก็ต่างมุ่งมาตรงกัน ท่านพระอาจารย์มั่นต้องคอยแบ่งปันจัดสรรเวลานาที มาก่อนมาหลังท่านรู้ทางได้ดี เทพจะมายามใดท่านรู้ก่อนได้ทุกที เทพเบื้องบนเบื้องล่างรู้ได้อย่างถ้วนถี่ ทั้งพวกนาคมากมีที่จะมา ท่านรู้ทั้งปวงล่วงหน้าและคอยรอท่ารับหน้าอย่างดี คอยต้อนรับขับสู้เทพในยามราตรี ทั้งสนทนาแสดงธรรมต้องตามคัมภีร์ ตามแต่เทพเหล่านี้จะขอฟังคำในธรรมใด -ดนตรี- โภยภัยต่างๆ งูและเสือช้างดุร้ายนานา เหล่านาคทั้งเทวดาต่างก็มาพิทักษ์รักษาดูแลให้ -ดนตรี- วัวควายชาวบ้านที่อยู่ในย่านก็ปลอดภัย สุขแสนสบายไม่มีอันตรายเสือร้ายไม่คอยเข่นฆ่า เป็นที่อัศจรรย์ใจเหลือจะพรรณนา ในป่าเขาบางที่มากมีเทวดา ในแม่น้ำลำห้วยบางแห่งมากด้วยนาคา สัตว์ร้ายชุกชุมมากหนักหนา แปลกนักไม่มีตัวไหนกล้าฮึกเหิมตั้งหน้ามาราวี หรือหมายมุ่งมั่นบั่นชีวี บางครั้งเสือมาใกล้ทางจงกรมก็เห็นมี แต่ไม่นานก็เดินหนีไม่คิดราวีทำอันตราย -ดนตรี- -พูด- บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๖ ในสมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่เขาผักกูด แถบหมู่บ้านสามผง บ้านห้วยทราย บ้านคำชะอี หนองสูง โคกกลาง ป่าเขาลูกนั้นเทวดาก็มาก เสือก็ชุกชุม บางคืนเสือมันมาเที่ยวใกล้บริเวณรอบที่พักของท่านและส่งเสียงร้องกระหึ่มสนั่นหวั่นไหว ทางโน้นก็ร้องทางนี้ก็ร้องกระหึ่มรับกันเป็นพักๆ พระเณรบางคืนไม่ได้หลับนอนกันเลยน่ากลัวมาก แต่ท่านมิได้กลัวพวกมันเลย ท่านบอกว่าเทวดารักษาตลอดเวลา คือเวลาเทวดาลงมาเยี่ยมฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่าน เขาบอกกับท่านว่าเขาพากันคอยอารักขาไม่ให้อะไรมารบกวนทำอันตรายได้ ฉะนั้นท่านจึงหาอุบายพูดให้พระเณรฟังว่า อ.มั่น: ใครขี้เกียจทำความเพียร ระวังให้ดีนะ เสือมันจะมาเอาไปกินเป็นอาหาร ใครขยันทำความเพียร เสือจะกลัวและไม่เอาไปเป็นอาหาร ทั้งพระและเณรพอได้ยินดังนั้นต่างก็เร่งทำความเพียรไม่ลดละ แม้เสือกำลังร้องกระหึ่มอยู่รอบๆ ก็จำต้องฝืนออกไปเดินจงกรม ทั้งที่กลัวแสนกลัวนั่นเอง แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีองค์ใดได้รับอันตราย อีกอย่างหนึ่งแม้ปกติเสือจะเคยมาเที่ยวกัดกินวัวควายชาวบ้านเป็นประจำก็เลิกรากันไป ไม่ทราบว่ามันไปหากินกันที่ไหน และชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่ท่านเคยไปพักอยู่ ก็เคยมาเล่าให้ท่านฟังเหมือนกันว่า ชาวบ้าน: เสือไม่ทำอันตรายสัตว์เลี้ยงของเขาเลย น่าอัศจรรย์มาก หัวหน้าเทวดายังบอกกับท่านว่า หัวหน้าเทวดา: ท่านมาพักอยู่ที่นี่ ทำให้พวกเทวดาสบายใจและมีความสุขมากผิดปกติ เพราะกระแสเมตตา ธรรมของท่าน แผ่กระจายครอบท้องฟ้าอากาศแผ่นดินไปหมดไม่มีอะไรเหมือนเลย เวลาท่าน แสดงธรรมแก่พระเณรและประชาชน กระแสเสียงของท่านนั้นสะเทือนไปหมด ทั้งเบื้องบน เบื้องล่างไม่มีขอบเขต ท่านย้อนถามเทวดาว่า อ.มั่น: ก็มนุษย์ไม่เห็นได้ยินกันบ้าง ถ้าว่าเสียงเทศน์สะเทือนไปไกลดังว่านั้น หัวหน้าเทวดารีบตอบท่านว่า หัวหน้าเทวดา: ก็มนุษย์เขาจะรู้เรื่องและสนใจอะไรกับศีลธรรมกันท่าน เขาเอา ตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย และใจของเขาไปใช้ในทางบาปทางกรรมและขนนรกมาทับถมตัวเองตลอดเวลา มีน้อยรายเต็มทีที่ มนุษย์จะนำ ตาหูจมูกลิ้นกายใจไปทำประโยชน์ คือศีลธรรมนั้น มนุษย์คนใดชั่วก็รู้จักแต่ทำชั่ว ถ่ายเดียว เวลาตายแล้วก็นิมนต์พระมาสาธยายกุสลาธรรมาให้ฟัง เขาจะเอาเวลาไหนมาฟังสำหรับ คนชั่วขนาดนั้น เพราะพอเขาตายลงไป กรรมชั่วก็มัดดวงวิญญาณเขาไปแล้ว ตั้งแต่วินาทีแรกขณะ เขาสิ้นใจนั่นแหละพระคุณเจ้า |
![]() |
Copyright All Rights Reserved. |