Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 11 อุทาหรณ์สอนใจเรื่องของขรัวตา

                                 ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๑
ทำนอง : ไทยเดิม

    ที่ชายเขาทางขึ้นไปสู่ถ้ำสาริกา มีสำนักวิปัสสนาแห่งหนึ่งอยู่ชายดง
มีขรัวตาหนึ่งองค์อาศัยอยู่ในนั้น คืนหนึ่งอยู่มาท่านพระอาจารย์มั่น
อยากทราบขรัวตาองค์นั้น ท่านทำอะไรอยู่
ท่านจึงเพ่งพิศพินิจจิตลงไปดู ท่านเองจึงรู้รู้ถึงความเป็นไป
-ดนตรี-
ตั้งแต่หัวค่ำ-เที่ยงคืน-จนค่อนราตรี ขรัวตาท่านมีมีแต่เรื่องวุ่นวาย
คิดถึงลูกหญิงชายครอบครัวไม่เว้นวาง ส่งจิตลงไปพบทีไรไม่ว่าง
ยังวุ่นวายไม่สร่าง วกวนห่วงหลังทางบ้าน
วุ่นสับสนแสนกังวลวงศ์วาน ห่วงลูกห่วงหลานสารพันทั้งราตรี
-ดนตรี-
รุ่งอรุณลงจากถ้ำบิณฑบาตประจำผ่านมา จึงแวะไปสนทนาขรัวตานั่นทันที
กล่าวเป็นเชิงปัญหาว่าไงเมื่อคืนนี้ ไม่หลับไม่นอนจนค่อนคืนราตรี
คิดปลูกนั่นสร้างนี่ ไม่มีให้ร้างว่างเปล่า
แต่งงานเลิศหรูกับแม่อีหนูคนเก่า ที่เคยคลอเคล้าเช้าขึ้นมายังอาวรณ์
-ดนตรี-
ขรัวตายิ้มแห้งแทบหมดแรงคำจำนรรจ์ ว่าพระอาจารย์มั่นอัศจรรย์เหลือใจ
ท่านรู้ได้อย่างไรคิดไปเมื่อยามนอน ท่านพระอาจารย์มั่นเลยถามคืนย้อน
หลวงพ่อย่อมรู้อยู่ก่อน ทุกตอนทั้งนอกทั้งใน
จิตคิดปรุงแสนนังนุงยุ่งใหญ่ ไม่มีสติเตือนใจเห็นพิษภัยในอารมณ์
-ดนตรี-
ยิ่งฟังพระอาจารย์มั่นขรัวตาก็พลันจะเป็นลม หน้าซีดเซียวผะอืดผะอมแทบเป็นลมล้มสิ้นชีวี
พระอาจารย์เห็นท่าไม่ดีพูดคุยเรื่องอื่นต่อไป กลบเกลื่อนพอเป็นพิธีแล้วรีบลาไกล
ขืนพูดเรื่องนั้นต่อไปขรัวตาเห็นท่าจะแย่ หรืออยู่นานไปขรัวตาคงได้นอนแผ่
แน่ยิ่งจริงแท้รีบลาขรัวตาไปกลางคัน
-ดนตรี-  แล้วเปลี่ยนเป็นทำนอง --ไทยเดิม

    พอล่วงเลยไป ๓ วันขรัวตาองค์นั้นก็จากลา ไกลหนีหน้าไปโดยพลัน
ทั้งกลัวทั้งอายพระอาจารย์ที่ล่วงรู้สาระพันภายในใจ    ถ้าขืนอยู่ต่อไปยิ่งอายหนักหนา
โยมที่เคยอุปถัมภ์ขรัวตามาถ้ำแล้วเล่าให้ฟัง ความทุกอย่างที่ผ่านมา
บอกให้อยู่ต่อก็ไม่รอรา รีบหนีไปไกลดีกว่าให้ท่านเห็น
สองสามคืนไม่เป็นอันหลับอันนอน   
-ดนตรี-
พระอาจารย์มั่นท่านสลดใจ ทำคุณไฉนได้โทษมา
ดูเหมือนว่าไม่อาทร ทำบุญแต่ได้บาปมาหาบคอน
อุทาหรณ์สอนใจท่านเรื่อยมา ดั่งเรื่องของขรัวตาไม่ลาเลือน
-ดนตรี-

                                  -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๑๑
     จากนั้นเป็นต้นมา ท่านพระอาจารย์มั่นก็มิได้ส่งกระแสจิตไปถึงขรัวตาอีกเลย เพราะเกรงว่าจะไปเจอเอาเรื่องที่เคยเจอเข้าอีก จนกระทั่งล่วงเลยไป ๓ วัน มีโยมที่เคยปฏิบัติขรัวตาขึ้นไปหาท่านที่ถ้ำ ท่านก็ถามถึงขรัวตาองค์นั้นว่า
อ.มั่น: ขรัวตาสบายดีหรือ
โยมนั้นก็กราบเรียนท่านว่า
ชาวบ้าน: ขรัวตานั้นจากไปที่อื่นเสียแล้วเมื่อเช้าวานนี้เอง  ผมถามท่านว่า  หลวงพ่อจะไปทำไม อยู่ที่นี่ไม่
สบายหรือ
ท่านก็บอกว่า
ขรัวตา: จะอยู่ได้อย่างไร ก็เมื่อเช้าวานนี้พระอาจารย์มั่นมาหาอาตมาที่นี่ แล้วเทศน์อาตมาเสียยกหนักๆ
จนอาตมาแทบเป็นลมสลบไปต่อหน้าท่าน ถ้าท่านขืนพูดต่อไปอีกสักประโยคสองประโยคอาตมา
ต้องล้มตายต่อหน้าท่านแน่ๆ แต่พอดีท่านหยุดและเลยพูดไปเรื่องอื่นเสีย อาตมาจึงพอมีชีวิตและ
ลมหายใจกลับคืนมา ที่สำคัญอย่างที่สุดก็คือ เวลาเราคิดอะไรๆ ขึ้นมาท่านรู้ไปหมด พอคิดว่าท่าน
จะรู้เรื่องเราเท่านั้น เนื้อตัวมันสั่นกลัวท่านขึ้นมาแล้ว แล้วอย่างนี้จะให้อาตมาอยู่ได้อย่างไร หนีไป
ตายที่อื่นดีกว่า
    พระอาจารย์มั่นเกิดความสลดใจที่ทำคุณได้โทษโปรดสัตว์ได้บาป เรื่องของขรัวตาเป็นเรื่องสำคัญต่อท่านพระอาจารย์ไม่น้อยตลอดมา ในการปฏิบัติต่อบรรดาผู้ที่มาเกี่ยวข้องทั้งใกล้และไกล เกรงว่าเรื่องจะซ้ำรอยเข้าอีก หากไม่สนใจคิดไว้ก่อน จากนั้นเป็นต้นมาท่านไม่เคยทักใครเกี่ยวกับความคิดนึกดีชั่ว หากจะพูดก็พูดเพียงเป็นอุบายไปเท่านั้น เพื่อผู้นั้นจะได้ระลึกรู้ตัวเอาเอง โดยมิให้กระเทือนใจมากมายอะไรนัก
 


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.