Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 8 ธรรมโอสถ

                  ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๘ 
ทำนอง : ลาวเจริญศรี

    สอง-สามราตรีที่ผ่าน ไม่มีเหตุการณ์อันใดให้กังวล
จิตรำงับไม่สับสน ชื่นกมลเพราะเงียบสงัด
ไม่มีอึดอัด ขัดหมองใดๆ
พอลุล่วงหลายราตรี ก็เริ่มจะมีอาการปวดท้องมากล้ำกราย
ก่อนนั้นก็เคยเป็นๆ หายๆ โรคเก่าแทรกซ้ำประจำกาย
นั้นได้ กำเริบรุนแรง
เวลามีโยมขึ้นไปหา ท่านพาโยมหารากไม้มาแบ่ง
ต้มฉันไปจนเหนื่อยแรง โรคสำแดงกระพือดื้อยา
ถ่ายเป็นเลือดสดๆ ฉันอะไรถ่ายสิ่งนั้นทั้งหมดออกมา
หรือว่าเราจะมรณา เป็นองค์ที่ ๕ อยู่ในถ้ำนี้
ถ้าหากจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี่ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด
เลยตั้งสติลงแน่นหนา อันหยูกยานี่หนอของด
ใช้แต่ธรรมโอสถ ตามพุทธพจน์แห่งองค์พระสัมมา
-ดนตรี-  แล้วเปลี่ยนเป็นทำนอง --แต่งเอง

    ตกลงปลงใจจะเป็นหรือตายก็ปล่อยวาง ไม่หวั่นไหวในมรณังยึดทางพระธรรมนำหน้า พอพลบค่ำเริ่มทำสมาธิภาวนา โดยไม่คำนึงถึงโรคาที่เบียนกายา กวนอยู่ภายใน สติ-ปัญญา-ศรัทธา-ความเพียรมั่นไม่หวั่นไหว แยกแยะธาตุขันธ์ออกไปทั้งส่วน รูป-กาย-เวทนา-สัญญา ทั้งส่วนสังขารตัวปรุงแต่งต่างๆ นานา ขุดค้นคลี่คลายใช้ปัญญาทบทวนไปมาโดยไม่หยุดยั้ง
ตั้งแต่พลบค่ำ จนเที่ยงคืน รู้แจ้งทั่วสารพางค์ โรคในท้องที่คะนองบ้าคลั่งก็หยุดยั้ง หายลงไปทันที
โรคก็ดับ ทุกข์ก็สูญ ใจว้าวุ่น หยุดวิ่งนิ่งทั้งราตรี ได้สมาธิอย่างดี สงบลงถึงที่ ไม่มีโยกคลอน

                                   -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๘
    พอจิตรวมสงบลงจนถึงที่สุดแล้ว จึงถอนออกมาขั้นอุปจารสมาธิ จิตของท่านส่องสว่างไสวออกไปนอกกาย ก็ปรากฏเห็นบุรุษผู้หนึ่งมีร่างใหญ่ดำและสูงราว ๑๐ เมตร ถือตะบองเหล็กใหญ่เท่าขายาวในราว ๒ วา เดินเข้ามาหาและบอกกับท่านว่า
ผีร่างยักษ์: เราจะทุบตีท่านให้จมลงไปในดิน ถ้าไม่หนีจะฆ่าให้ตายในบัดเดี๋ยวนี้ ท่านรู้ไหมว่าตะบองเหล็ก
ของเรานี้ ตีช้างสารใหญ่ตัวหนึ่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ช้างใหญ่ที่ว่านั้นต้องจมลงไปในดินมิดเลย
โดยไม่ต้องตีซ้ำอีก
ท่านจึงกำหนดจิตถามผีร่างยักษ์นั้นว่า
อ.มั่น: จะมาตีมาฆ่าอาตมาทำไม อาตมามีความผิดอะไรบ้างถึงจะต้องถูกตีถูกฆ่าเล่า การมาอยู่ที่นี่มิได้
มากดขี่ข่มเหงหรือเบียดเบียนใครให้เดือดร้อนพอถูกใส่กรรมทำโทษ ถึงขนาดต้องตีต้องฆ่าให้ถึง
ตายเช่นนี้
ผีร่างยักษ์: เราเป็นผู้มีอำนาจรักษาภูเขาลูกนี้อยู่นานแล้ว ไม่ยอมให้ใครมาอยู่ครองอำนาจเหนือตนไปได้
เราต้องปราบปรามและกำจัดทันที
อ.มั่น: ก็อาตมามิได้มาครองอำนาจบนหัวใจของใครนอกไปจากมาปฏิบัติบำเพ็ญศีลธรรมอันดีงาม
เพื่อครองอำนาจเหนือกิเลสและบาปกรรมบนหัวใจของตนเท่านั้น จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะ
มาเบียดเบียนและทำลายคนเช่นอาตมาซึ่งเป็นนักบวชทรงศีล และเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าผู้มี
ใจอันบริสุทธิ์และมีอำนาจในทางเมตตาครอบไตรโลกธาตุนี้ โดยไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน ถ้าท่านมี
อำนาจเก่งจริงแล้วท่านมีอำนาจเหนือกรรมเหนือธรรมหรือเปล่า
ผีร่างยักษ์: เปล่า
อ.มั่น: พระพุทธเจ้าท่านเก่งกล้าสามารถปราบกิเลสตัวที่คอยอวดอำนาจว่าตัวดีตัวเก่งอยู่ภายในที่คิด
อยากตีอยากฆ่าคนอื่นสัตว์อื่นให้หมดสิ้นไปจากใจ ส่วนท่านที่ว่าเก่งนั้น ได้คิดปราบกิเลสตัวดัง
กล่าวให้หมดสิ้นไปบ้างหรือยัง
ผีร่างยักษ์: ยังเลยท่าน
อ.มั่น: ถ้าเช่นนั้นท่านก็มีอำนาจไปในทางทำตนให้เป็นคนมืดหนาป่าเถื่อนต่างหาก แต่ไม่มีอำนาจปราบ
ความชั่วโฉดของตัวเองที่กำลังแผลงฤทธิ์แก่ผู้อื่นโดยไม่รู้สึกตัว เพราะท่านกำลังหลงอำนาจ
อำนาจอันใดบ้างที่ท่านว่ามีอยู่ในตัวท่าน อำนาจนั้นจะสามารถต้านทานบาปกรรมอันหนักที่ท่าน
กำลังจะก่อขึ้นเผาผลาญตัวเองอยู่เวลานี้ได้หรือไม่ ถ้าท่านมีอำนาจและมีฤทธิ์เหนือกรรมเหนือ
ธรรมแล้ว ท่านก็ทุบตีหรือฆ่าอาตมาได้เลย สำหรับอาตมาเองไม่กลัวความตาย แม้ท่านไม่ฆ่า
อาตมาก็จักต้องตายอยู่โดยดี เพราะโลกนี้เป็นที่อยู่ของมวลสัตว์ผู้เกิดแล้วต้องตายทั่วหน้ากัน
แม้ตัวท่านเองที่กำลังอวดตัวว่าเก่งในความมีอำนาจ จนกลายเป็นผู้มืดบอดอยู่ในขณะนี้ 
แต่ท่านก็มิได้เก่งไปกว่าความตายและกฎแห่งกรรมที่ครอบงำสัตว์โลกไปได้เลย
 


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.