เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
เป็นมติคณะสงฆ์ได้ยังไง
วัดป่าภูสังโฆ ท่านวันชัยถวายมา ทองคำ ๒ กิโล ๑๓ บาท ๔๖ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑,๒๐๐ ดอลล์ เงินไทยได้ ๓๐,๐๐๐ บาท ทองคำที่ได้ทีหลังมอบเข้าคลังหลวงแล้วเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวา เวลานี้ได้ ๑๐๐ กิโล ๑๓ บาท ๖๓ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๐๗,๖๕๐ ดอลล์ รวมดอลลาร์ที่ได้แล้วทั้งหมด นี่หมายถึงที่มอบแล้วและยังไม่มอบรวมกันทั้งหมดเป็นดอลลาร์ ๗,๓๐๗,๖๕๐ ดอลล์ ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเป็น ๕,๖๕๙ กิโลครึ่ง
โยม วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สงฆ์ครับผม สั้น ๆ ถวายท่านหลวงตา
หลวงตา ว่ายังไงอีก
โยม ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วันนี้ครับ รัฐประสานจุดลงตัว พ.ร.บ.สงฆ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าขณะนี้กำลังมีความสับสนในเรื่องของร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งโดยข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายต่าง ๆ ได้แสดงความคิดเห็น อีกทั้งตนได้ชี้แจงมาตลอดว่า เรื่องการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ได้เตรียมการกันมาแล้ว ทางรัฐบาลก็ยินดีเป็นเจ้าภาพจัดการให้ เมื่อรัฐบาลเป็นผู้ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่เมื่อยังมีหลายกระแสที่ไม่ลงตัวอยู่ หากมีการหยิบเอาร่างกฎหมายดังกล่าวมาเสนอ ก็จะทำให้ทำเกิดความแตกแยกขึ้นได้ หากทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้วรัฐบาลก็ยินดีดำเนินการให้
รัฐบาลมีหน้าที่เชื่อมประสาน ไม่ใช่ส่งอะไรมาแล้วทำตามหมด ขณะนี้กำลังพยายามหาจุดลงตัวที่สุด ส่วนวิธีการต้องค่อย ๆ ทำ ยังบอกไม่ได้ เพราะมีหลายฝ่ายหลายหน่วยงานช่วยกันทำ อย่างไรก็ตามขณะนี้มีปัญหาเร่งด่วนอื่นสำคัญกว่าร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ เมื่อไรทุกฝ่ายหาจุดลงตัวได้ค่อยเข้ามาดำเนินการร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เป็นของดี ตนไม่อยากให้หยิบขึ้นมาทำให้สงฆ์หรือชาวพุทธแตกแยกเพราะไม่คุ้มค่า นี่มันหมายความว่ายังไง พ.ร.บ.คณะสงฆ์นี้หมายถึงทั่ว ๆ ไป ใช่ไหม
โยม อันที่อยู่ในกฤษฎีกานี่ครับ
หลวงตา พ.ร.บ.สงฆ์ที่กฤษฎีกาเหรอ อันนี้ก็คณะสงฆ์ไทยตีลงไปทะเล แล้วมันมาได้ยังไงอีก
โยม ไม่ใช่เป็นของดีครับ เขาบอกว่าถ้าฝ่ายคณะสงฆ์ตกลงกันได้แล้วก็ยื่นไปบอกให้รัฐบาลช่วยทำเขาก็จะเป็นเจ้าภาพทำให้
หลวงตา เขาก็จะทำ พูดง่าย ๆ คือว่า พวกคณะสงฆ์เราอย่าเป็นหมากัดกันว่างั้นเถอะน่ะ ให้มันตรงอย่างนั้นซิ ถ้ามันเป็นหมากัดกันแล้วใครไม่มายุ่ง มายุ่งไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นหมาด้วยกันอีก นั่น จะมายุ่งหาอะไร ใครไม่อยากเป็นหมานี่วะ ว่ายังไงพูดนี่ เอ้า ถ้าว่าผิดเถียงมา เราอ่านดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร นอกจากเอามาพูดตลกกันเล่นอย่างนี้แหละ พ.ร.บ.สงฆ์อะไรเป็นของดีอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องหมากัดกัน นี่มันก็ตลกไปได้ เราพูดมันมีได้ทุกแบบนั่นแหละ ก็พูดจริง ๆ จิตมันไม่ได้มีในนี้เลย เล่นกับของสกปรกต่างหากนี่นะ ที่เราพูดทำอยู่ทุกวันนี้ เรามาขยำขยี้ขยำมูตรคูถต่างหาก เราพูดตรง ๆ เหมือนไม่มีอะไรในหัวใจเรา หมดขนาดนั้นนะ จะให้ว่ายังไง ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่วันบวชจนกระทั่งมาถึงบัดนี้ เราไม่เคยเหยียบย่ำทำลายศาสนาตรงไหน ๆ ด้วยเจตนาเราไม่มี จนกระทั่งถึงจุดที่เราต้องการคือตามสายทางของศาสดาที่ตรัสไว้แล้วด้วยความชอบทุกอย่าง สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว เรายังบอกว่าเราไม่มี มีแต่เทศน์สอนกันไป
เอ้า พากันก้าวเดิน ถ้าจะออกจากมูตรจากคูถให้พากันก้าวเดิน เหล่านี้มีแต่มูตรคูถคอยแต่จะกัดกัน แม้แต่พระด้วยกันยังกัดกัน สมัครตัวเป็นหมาได้ มันสมัครอยู่ในหลักธรรมชาตินั้น ๆ เรื่องตั้งใจว่าสมัครออกประกาศออกป้าง ๆ นี้มันไม่มีแหละ แต่สมัครกัดกันอยู่ในตัวแล้วมี มันพอใจที่จะกัดกันอย่างนั้นแหละ กัดกันไปกัดกันมา โอ๊ย.พูดแล้วเราทุเรศนะ อย่างที่ว่า พ.ร.บ.พ ร บีบ เหล่านี้ ก็หลักธรรมหลักวินัยก็มีอยู่เต็มสัดเต็มส่วนไม่ได้มีบกพร่องอะไร ใครก็เรียนมาด้วยกัน ที่มากัดกันอยู่เวลานี้ มาแต่งเรื่องแต่งราวกัดกันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ผู้ได้เรียนธรรมวินัยมาด้วยกันทั้งนั้น มากัดกันหาอะไร พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนในธรรมวินัยนั้นว่าให้กัดกันนี่นะ แล้วมันโดดไปยังไงไปกัดกันจนได้ มันโดดลงหาหมา ถ้าไม่โดดลงไปหาหมามันก็ไม่กัดกันละนะ
เลอะขนาดนั้นนะหัวใจพระเราทุกวันนี้ หลักธรรมวินัยมีอยู่มันไม่ดู มันเสือกไปหาอะไร มายุ่งกันอยู่เวลานี้กระเทือนทั่วประเทศไทย ถ้าเดินตามทางพระพุทธเจ้าที่ทรงสั่งสอนไว้แล้วนั้น มีที่ตรงไหนจะได้มาทะเลาะเบาะแว้งจนขนาดที่ว่ากัดกัน ลงอย่างนี้พอดี เพราะจิตใจมันต่ำทรามมากลงไปทุกวัน ๆ มันไม่ได้ดูธรรมวินัยซึ่งเป็นองค์แทนของศาสดา มันดูเทวทัตในหัวใจมันนั่นน่ะ มันก็เที่ยวหากัดศาสดาละซิ ขัดแย้งธรรมวินัยข้อนั้นข้อนี้ บัญญัติมานี้เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปต่อหน้าต่อตา ทั้ง ๆ ที่ธรรมวินัยคือองค์ศาสดาแทนพระองค์ ที่เป็นศาสดาของพวกเรามีอยู่นะ มันก็ไม่ยอมไป มันบืนไปหาอะไร อู๊ย.ทุเรศมากทีเดียวสกปรกมาก เลวมากเราพูดจริง ๆ เลยนะ ถ้าธรรมวินัยคือองค์ศาสดาไม่มีเราก็ไม่ว่า พอจะลูบ ๆ คลำ ๆ กัน ผิดบ้างถูกบ้าง ก็ลักษณะเหมือนว่ากัดกันบ้าง
แต่นี้มีอยู่นี่น่ะ เห็นกันอยู่ชัดๆ นี่น่ะ ทำไมไม่ปฏิบัติ มันไม่ได้สนใจปฏิบัติธรรมวินัย ดูอยู่เฉย ๆ ดูเพื่อไปส่งเสริมวิชาหมามากัดกันเท่านั้น เราพูดอย่างนี้ละ ถ้าหากว่าเป็นวิชาปฏิบัติตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า บัญญัติหาอะไรสิ่งเหล่านั้นมันมีประโยชน์อะไร มันมีตั้งแต่เป็นภัยมหาภัยทั้งนั้นละ กัดกัน ๆ ออกมาข้อไหนมันก็ดูด้วยกันตามีทุกคน จะให้ว่ายังไงหัวใจมีทุกคน ผิดถูกชั่วดีมันก็รู้อยู่ อย่างที่ว่าของสงฆ์ ๆ ละซิ พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้หมดของสงฆ์ประเภทใดควรจัดควรแจกควรแยกอย่างไร ๆ ทรงสอนไว้เรียบร้อยแล้วในธรรมวินัย มีขัดข้องอะไร จะไปหาอำนาจมาจากไหนจะครอบสมบัติของสงฆ์ทั่วประเทศไทยทุกวัดทุกวา บัญญัติมีที่ไหน ถ้าไม่ใช่ไปหากัดนั้นกัดนี้กินนั้นกลืนนี้เหมือนหมาเท่านั้น เราว่าอย่างนี้เลยแหละ ว่าอย่างอื่นมันไม่ถึงความจริง
ธรรมวินัยมีอยู่นี่ ดูเอาซิท่านบัญญัติไว้ยังไง เรื่องของสงฆ์ให้ละเอียดลออยิ่งกว่าศาสดาองค์เอกผู้สิ้นกิเลสแล้ว อันนี้มันคลังกิเลส มันส้วมมันถานมันมูตรมันคูถเต็มหัวใจนี้ เอาไปโปะธรรมวินัยพระพุทธเจ้าให้แหลกเหลวไปหมด พูดได้เท่านั้น ทำให้ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมวินัยยุ่งยากวุ่นวายไปหมด เห็นไหมเมื่อเร็ว ๆ นี้ออกไปประชุมเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ ของเล่นเมื่อไร พระท่านออกไปเพราะว่าท่านทนดูไม่ได้ ท่านปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยดีอยู่นี่ มันมายุ่งเหยิงวุ่นวายอะไร นั่น ท่านจึงออกมาแสดงความเห็นให้รู้เรื่องรู้ราว อะไรที่เป็นภัยต่อพุทธศาสนาปัดออกให้หมด นั่น ท่านก็บอกอย่างนั้น พุทธศาสนาก็ธรรมวินัยนั้นเอง ก็เห็นอยู่นั้น ท่านประกาศผิดที่ตรงไหน ท่านประชุมประกาศกันนั้น ให้ถอนออกให้หมด สิ่งที่เป็นภัยต่อพระพุทธเจ้า เหยียบหัวพระพุทธเจ้าก็เท่ากับเหยียบหัวพวกเราไปตาม ๆ กันหมด นั่น ให้เอาออกให้หมด พวกนี้พวกมูตรพวกคูถพวกขี้พวกส้วมพวกถานเอาออก อย่าให้มันมาติดธรรมพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นของสะอาดสุดยอด โลกทั้งหลายได้อาศัยอยู่ตั้งสามแดนโลกธาตุนี้เลย นั่น ความหมายก็ว่าอย่างนั้นนี่นะ
มันอวดดิบอวดดีมาจากที่ไหน แสดงออกมาข้าง ๆ คู ๆ แล้วไม่ยอมรับใครด้วยนะ แบบหน้าด้านที่สุดทุกกิริยาการแสดงออกมา มันฟังไม่ได้ ตามหลักธรรมหลักวินัย มันยังทำออกมาได้ เห็นไหมพระท่านแตกออกมา อยู่ที่ไหนท่านภาวนาของท่าน นี่ใครไปบังคับท่านมา ไม่มีใครไปบังคับท่าน เพราะหลักธรรมวินัยเห็นอยู่ทุกคน สิ่งที่เป็นเสี้ยนเป็นหนามต่อชาติต่อศาสนารวมกันทั้งสองมันเกี่ยวโยงกันไปหมด มีอยู่นี่ ท่านก็ต้องออกมาละซี มาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอะไรจริงอะไรยังไง ท่านจึงมาแสดง อยู่ในตำราเฉย ๆ ไม่สนใจ พระท่านออกมาเป็นสักขีพยานของธรรมวินัยพระพุทธเจ้า ออกมาประกาศลั่นเห็นไหมล่ะ ผิดตรงไหนที่ท่านประกาศ
คือสิ่งที่มันถูกท่านก็ครองไว้แล้วปฏิบัติอยู่ ที่มันผิดแล้วท่านก็มาประกาศร่วมกัน ประกาศว่าผิด พูดง่าย ๆ จึงลงในกฎในเกณฑ์ออกเป็นหนังสือไปทางโน้น เข้าไปทางบ้านเมืองคือทางรัฐบาล ส่งเข้าไปนั้น นี่เป็นความเห็นของพระสงฆ์ไทยที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมวินัยโดยแท้จริงเห็นเป็นอย่างนี้ นั่น ก็แสดงว่าท่านยุ่งขนาดนั้นนะ เป็นยังไงมันไม่มีหูมีตาเหรอที่มันมาก่อเรื่องก่อราวนั้น เหอ พิจารณาซิน่ะ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น มันด้านมันดื้อแท้ ๆ นะพวกนี้ หาเรื่องหาราวอยู่เป็นสุขไม่ได้เทียว
โอ๊ย.เราพูดแล้วเราทุเรศจริง ๆ นะ ถ้าหากว่าไม่มีหลักมีเกณฑ์มีอะไร แล้วต่างคนต่างลูบต่างคลำมันก็ผิดก็พลาด มีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างเป็นธรรมดา ความเห็นไม่ลงรอยกันเพราะไม่มีหลักประกัน ไม่มีหลักยืนตัวเป็นสักขีพยานเป็นหลักรับรองเอาไว้ ไม่มีหลักเครื่องรับรอง อันนี้มีอยู่ธรรมวินัยสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ๆ มันเสือกไปหาอะไร ให้พิจารณาซิ เด็กอมมือเขาก็ไม่ทำ ความคิดเห็นประเภทนี้ไม่เคยเกิดในเด็กอมมือนะ หรือตาสีตาสาตามท้องนาเขาก็ไม่ก่อ ไอ้พวกที่อวดตน ๆ ว่าเก่งกล้าสามารถนี่ละที่มันเก่ง ๆ หากัดอยู่เวลานี้ ทำลายที่นั่นทำลายที่นี่ ยุ่งที่นั่นยุ่งที่นี่ตลอดมานะ พวกนี้พวกเปรตชัด ๆ อาหารไม่พอ ความอยากได้อยากมี อยากร่ำอยากรวยก็ไม่พอ อำนาจบาตรหลวงก็ไม่พอ ยึดนั้นยึดนี้หวังนั้น เหยียบนั้นเหยียบนี้ไปอย่างนั้นละ อ่านเอาก็รู้อะไร ๆ ก็ดี หาลบอำนาจที่ท่านตั้งไว้ด้วยความเป็นธรรม เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่นี้เป็นยังไง เป็นธรรมมาสักเท่าไหร่ แล้วสมเด็จพระสังฆราชใครตั้ง แน่ะ ก็พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งไม่ใช่เหรอ
โยม ครับ
หลวงตา ก็ความเป็นธรรม เรียกว่าชาวไทยทั้งประเทศยอมรับ เทิดทูนพระองค์ให้พระองค์ทรงตั้ง มีอำนาจตั้ง แน่ะ กฎเกณฑ์ก็มีอยู่ พระสังฆราชก็ดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็คนทั้งประเทศเชิดชูท่าน ให้เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาลบอำนาจท่านทำไม ซึ่งเป็นการลบเหยียบหัวประชาชนทั้งประเทศมีอย่างเหรอ ตัวเท่าหนูนี้อวดดิบอวดดี โอ๋ย.ดูไม่ได้นะอวดเก่งด้วย อึ่งอ่างกับวัว ฟังซิน่ะ แล้วท้องมันระเบิดนะ อึ่งอ่าง อะไรก็ไม่ใหญ่เท่าตัว ๆ คนทั้งประเทศเสกสรรหรือยกยอกันขึ้น เช่นอย่างยกยอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านไม่ได้มาเป็นปลอม ๆ นะ ท่านเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นด้วยความเทิดทูนของคนทั้งประเทศนี่ฟังซิ แล้วไปลบทำไมลบอำนาจท่าน เอาอำนาจมาจากไหนอำนาจของตัวที่จะไปลบ มันได้มาจากไหน มันได้มาจากอึ่งอ่างนั่น มันจะได้มาจากที่ไหนพวกนี้ พิจารณาซิ
สมเด็จพระสังฆราชก็พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งเอง ลบไปเลยลบอำนาจมันจะมาตั้งเอง ไปเอาอึ่งอ่างมาตั้งมาเหยียบหัววัวหัวราชสีห์ พิจารณาซิ วัวก็ดีราชสีห์ก็ดีใหญ่ตามหลักธรรมชาติของสัตว์ประเภทนั้น นี่ท่านก็ใหญ่ด้วยอำนาจวาสนาบารมีของท่าน สมควรที่จะเป็นผู้ใหญ่ แล้วประชาชนทั้งประเทศยกยอท่านขึ้น เป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นปลอม ๆ เมื่อไหร่ มาเหยียบท่านต่อหน้าประชาชนได้ยังไง ประชาชนยกขึ้นแท้ ๆ มาเหยียบทำไม ได้ความดิบความดีมาแต่ไหน ถ้าได้ความดิบความดีมา มาเหยียบทำไมธรรมวินัยอีกด้วยนะ มาเหยียบหาอะไร พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้เรียบร้อยแล้วเหยียบหาอะไร บกพร่องที่ตรงไหนธรรมวินัย สิ่งที่มันยุ่งอยู่ตลอดเวลาคือพวกอึ่งอ่างนี่แหละ อวดเก่งนี่แหละ อวดนั้นอวดนี้อยู่เวลานี้ ทำให้เดือดร้อนกันไปหมดทุกหย่อมหญ้า
ธรรมดามันจะมีเรื่องอะไร ขอให้ปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัย จะไม่มีที่ไหนร่มเย็นยิ่งกว่าผู้ถืออรรถถือธรรมวินัยของศาสดาองค์เอก ซึ่งเคยให้ความร่มเย็นแก่โลกมานาน อันนี้จะร่มเย็นมากยิ่งกว่าอะไร ในโลกนี้เราไม่เห็นอะไรเห็นแต่ศาสนา เหล่านี้เราไม่เห็นด้วยเลย เราไม่ใช่ไม่เห็นด้วยทิฐิ ไม่เห็นด้วยด้วยเหตุด้วยผลนี่นะ ไม่ทราบอะไรจะปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยท่านสอนไว้เพื่อความสงบร่มเย็น ให้เป็นคติตัวอย่างอันดีงามแก่ลูกแก่หลานแก่เพื่อนแก่ฝูงต่อไปมันไม่ยอมสนใจ อยู่ ๆ ก็อยากเด่นอยากดัง มีแต่หัวไม่มีดินเหนียว หาดินเหนียวมาติดหัวแล้วก็ว่าตัวมีหงอนขึ้นอย่างนั้นนะ เวลานี้มันหาแต่ดินเหนียวมาติดหัวตัว โอ๊ย.น่าทุเรศจริง ๆ นะพวกนี้
โยม มีหลักเกณฑ์ที่จะสนับสนุนคำเทศน์หลวงตา ทีนี้ก็ขอประทานแล้วแต่หลวงตาพิจารณาให้อ่านหรือไม่ให้อ่าน
หลวงตา เอ้า ว่าไป
โยม ครับผม
หลวงตา มีอะไรว่ามา
โยม อันนี้จะสรุปโดยย่อนะครับว่า อันนี้เป็นคำกล่าวของศาสดานะครับ พระธรรมและพระวินัยที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วจักเป็นพระศาสดาของท่านทั้งหลายเมื่อเราล่วงลับไป โอวาทของพระพุทธองค์ก่อนปรินิพพาน ทีนี้มูลเหตุที่ พ.ร.บ.สงฆ์ อันนี้ปรกติเขาใช้ปี ๒๕๐๕ อยู่ ต่อมากรรมการมหาเถรสมาคมนี้ก็มีฆราวาส ๒ คน มี นายมีชัย ฤชุพันธ์ และดร.วิษณุ เครืองาม เป็นฆราวาสที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทางฝ่ายพระก็มีสมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เป็นฝ่ายยกร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ฉบับใหม่นี้ขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การถูกต้อง แล้วต่อมาฝ่ายฆราวาส ๒ ท่านนี้ท่านก็ปฏิเสธว่าท่านไม่ได้เป็นฝ่ายยกร่าง
เพราะฉะนั้นสรุปแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยกร่างโดยสมเด็จเกี่ยวแต่เพียงผู้เดียว สมเด็จเกี่ยวเป็นพระภิกษุได้ยกร่างเสนอกฎหมายขึ้นเอง เป็นการผิดพระธรรมวินัยทำเกินพระพุทธบัญญัติ แล้วสั่งให้ฆราวาสยกร่างกฎหมายตามที่ตนต้องการ ก็เปรียบกับพระหุงหาอาหารทำกินเอง (ผิดพระธรรมวินัย) สั่งปรุงรสตามความต้องการ ร่าง พ.ร.บ.นี้จึงเป็นโมฆะ โมฆะในทางธรรมและทางโลก
ในทางธรรม |