คำถาม 
โดย : สรร ถามเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2547

เห็นภาพต่าง ๆ เป็นเพราะเผลอสติจากคำบริกรรมหรือไม่

ผมขอกราบนมัสการหลวงตาที่เคารพและเทิดทูนเหนือเศียรเกล้า ผมมีปัญหาจะกราบเรียนถามเพื่อคลายความสงสัยดังนี้คือ  1. ผมบริกรรมคำว่าธัมโม โดยตั้งสติอยู่กับคำบริกรรมดังที่หลวงตาสอน พอทำไปสักพักคำบริกรรมหายไปและเห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึกเหมือนกับหลับแล้วฝันไป ผ่านไปสักพักก็เริ่มรู้สึกตัวระลึกคำบริกรรมได้อีกครั้ง แล้วสักพักก็เหมือนหลับแล้วฝันไปอีกสลับกันไปมา ผมขอกราบเรียนถามว่าช่วงที่เห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆเหมือนหลับแล้วฝันไปนี้
เป็นเพราะผมเผลอสติจากคำบริกรรมหรือไม่ครับ 

คำตอบ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2547

เรียนคุณผู้ถาม
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ
เมื่อเช้าวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด  ดังนี้

ผู้กำกับ       :     คนที่สองครับ ผมบริกรรมคำว่าธัมโม โดยตั้งสติอยู่กับคำบริกรรมดังที่หลวงตาสอน พอทำไปสักพักคำบริกรรมหายไปและเห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึกเหมือนกับหลับแล้วฝันไป ผ่านไปสักพักก็เริ่มรู้สึกตัวระลึกคำบริกรรมได้อีกครั้ง แล้วสักพักก็เหมือนหลับแล้วฝันไปอีกสลับกันไปมา ผมขอกราบเรียนถามว่าช่วงที่เห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนหลับแล้วฝันไปนี้ เป็นเพราะผมเผลอสติจากคำบริกรรมหรือไม่ครับ

หลวงตา     :     อันนี้เป็นกิริยาที่จิตเคลื่อนไหวออกจากคำบริกรรม ออกรู้ในสิ่งต่างๆ เมื่อกลับเข้ามาก็ระลึกคำบริกรรมได้ จะว่าเผลอหรือไม่เผลอ เราออกจากบ้านไปเที่ยวนั้นเที่ยวนี้แล้วก็กลับมาหาบ้านของเก่าเรา เผลอหรือไม่เผลอก็พิจารณา คนออกจากบ้านไปทำงานกลับมา อันนี้ออกจากพุทโธนี้ไปรู้นั้นรู้นี้ๆ แล้วกลับมาก็มาระลึกพุทโธได้ มันเหมือนกันนั้นแหละ เวลามันออกก็ให้มันออก ไม่ว่าละ ไม่ผิด มีออกมีเข้าแต่อย่าเตลิดเปิดเปิงก็แล้วกัน อันนี้ยังไม่ผาดโผน เพียงออกไปรู้นั้นรู้นี้ ที่ผาดโผนกว่านี้ยังมี แต่ไม่ตอบเมื่อยังไม่มีเหตุการณ์ เอ้าว่าไป
                                                  _________

คุณสามารถกดอ่าน รับชมวิดีโอเทศน์กัณฑ์นี้ได้ที่
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2775&CatID=2

<< BACK

 


หน้าแรก